การลดโหนกแก้ม เนื่องจากกระดูกโหนกแก้มผู้ชายมักจะมีลักษณะของความกว้าง ความนูนสูงกว่าโหนกแก้มผู้หญิง การลดโหนกแก้มให้แคบลงจะทำให้ ใบหน้าส่วนกลางดูแคบลง เล็กลงดูเหมือนผู้หญิงมากขึ้น การผ่าตัดนั้นสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. การผ่าตัดในช่องปากบวกกับการผ่าตัดบริเวณหน้าใบหูหรือไรผมเล็กน้อย
2. คือการผ่าตัดบริเวณด้านบนศีรษะ (bicoronal incision) การผ่าตัดบริเวณด้านบนศีรษะจะสามารถทำให้โหนกแก้มด้านข้างเหนือหูแคบลงได้มากกว่าการผ่าตัดในช่องปาก ซึ่งเป็นข้อดีแต่เป็นการผ่าตัดที่ทำได้ยากและซับซ้อนมากกว่าการผ่าตัดในช่องปาก การลดโหนกแก้มนั้นจะตัดกระดูกโหนกแก้ม ให้มีช่องว่างให้โหนกแก้มที่นูนนั้นเลื่อนเข้ามา ไม่ได้ตัดทิ้งไป หลังจากนั้นก็จะเชื่อมด้วย miniplate & screw เป็นการบีบเข้ามา ทั้งนี้ส่วนมากศัลยแพทย์ตกแต่งจะทำต่างกันเล็กน้อยในรายละเอียด ซึ่งถ้าทำได้แนวสามมิติ คือลดความกว้าง ความสูงของโหนกแก้มลง และเข้าด้านใน จะทำให้โหนกแก้มทั้งแคบทั้งเล็กลงเห็นผลชัด ส่วนการยึดโดย miniplate & screw เพื่อให้โหนกแก้มไม่ไปเคลื่อนไปตามแรงดึงของกล้ามเนื้อมัด masseter และ pterygoid muscle ด้านในซึ่งสามารถทำให้โหนกแก้มส่วนนั้นเคลื่อนตัวหรือเลื่อนต่ำลง ทำให้เกิดรอยยุบได้ ดังนั้นโดยทั่วไปการยึดด้วย miniplate & screw จะทำให้ส่วนของโหนกแก้มแข็งแรงมากกว่าการไม่ยึดนั้นเอง
การผ่าตัดลดโหนกแก้มจะต้องทำโดยการดมยาสลบ โดยผ่าตัดในช่องปากร่วมกับบริเวณหน้าหูเพื่อเลื่อนกระดูกโหนกแก้มลงนั้น ขณะที่ถ้าผ่าตัดบริเวณบนศรีษะจะอาจจะไม่จำเป็นต้องมีแผลในช่องปากหรือบริเวณหน้าหูทั้งสองข้าง ทั้งนี้ขึ้นกับศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัด แต่ในกรณีที่เคยผ่าตัดมาแล้วและไม่ได้รูป สมส่วน เช่น สูงต่ำไม่เท่ากัน หรือ ไม่เรียบหรือนูนตรงไหนนั้นการแก้ไขมักจะต้องทำจากการผ่าตัดด้านบน ซึ่งเรียกว่า (bicoronal incision) จะทำการแก้ไขได้ดีกว่าการผ่าตัดในช่องปาก
หลังผ่าตัดจะมีอาการบวมประมาณ 2-3 สัปดาห์ และบางคนอาจจะมีเลือดปนเสมหะได้ประมาณ 2-3 วัน และจะเห็นผลชัดเจนว่าโหนกแก้มเข้าที่มากขึ้นใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน และจะเห็นผลที่มากขึ้นใน 6 เดือน - 1 ปีขึ้นไป หลังผ่าตัดผู้ป่วยต้องดูแลเรื่องการ ห้ามนอนทับบริเวณโหนกแก้มสองข้างเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้การเชื่อมของกระดูกแข็งแรงและห้ามเคี้ยวอาหาร ของที่เหนียวหรือแข็ง เนื่องจากสามารถทำให้กระดูกเลื่อนลงต่ำได้ จึงต้องระวังสองส่วนนี้