โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งมิลาด้า
Services
แปลงเพศจากชายเป็นหญิง
การผ่าตัดแปลงเพศ ทำได้ 2 วิธี คือ
1. ใช้ผิวหนังตัวเองในการทำทำช่องคลอด
2. การใช้ลำไส้ของตัวเองในการทำช่องคลอด
รายละเอียดเพิ่มเติม
การผ่าตัดยกกระชับรูปร่าง
ปัญหามักจะเกิดกับบุคคลที่มีอายุมาก
หรือลดน้ำหนัก บริเวณที่พบมักจะเป็นบริเวณ
หลังด้านบน หรือบริเวณเอว
รายละเอียดเพิ่มเติม
การแก้ไขหน้าอกหย่อนยาน
เกิดจากสาเหตุที่คนไข้มีบุตร หรือมีหน้าอกใหญ่ซึ่งถ้าคนไข้ลดน้ำหนักด้วยจะยิ่งหย่อนลง หรือมีหน้าอกใหญ่ตามธรรมชาติ ศัลยแพทย์จะแก้ไขโดยการยกกระชับหน้าอก และลดขนาดไปพร้อม ๆ กัน
รายละเอียดเพิ่มเติม
การลดขนาดหัวนม และปานนม
การแก้ไขหัวนมที่ใหญ่ มักจะทำร่วมกับการเสริม
หน้าอก โดยจะสามารถลดขนาดหัวนมให้เล็กลงได้
ถึง 1/3 ส่วน หรือ 1/2 ส่วน
รายละเอียดเพิ่มเติม
ปรึกษาศัลยกรรม
สอบถามราคาและโปรโมชั่น
การผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิงคืออะไร
การผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิงคือการผ่าตัดเพื่อตกแต่งอวัยวะเพศชายให้มีรูปร่างเหมือนอวัยวะเพศหญิงทั้งภายนอกและภายใน แบ่งเป็น 2 ขั้นตอนหลักๆ ได้แก่ การสร้างอวัยวะเพศภายนอกให้เหมือนผู้หญิงและการสร้างช่องคลอดเทียม การสร้างอวัยวะเพศภายนอกให้เหมือนผู้หญิงการสร้างช่องคลอดเทียม มีหลายเทคนิคในการสร้างช่องคลอดเทียมแต่ละเทคนิคมีข้อดี-ข้อจำกัดที่แตกต่างกันจึงทำให้การผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิงในแต่ละคนแตกต่างกันตามไปด้วย เช่นใช้ผิวหนังจากองคชาตอย่างเดียว ใช้ผิวหนังจากองคชาตร่วมกับผิวหนังจากส่วนอื่นๆเช่น ต้นขา ขาหนีบ ใช้ลำไส้ใหญ่ในการทำผนังช่องคลอดหรือใช้ผนังหน้าท้องร่วมกับผิวหนังจากองคชาต เป็นต้น
การผ่าตัดแปลงเพศ
การผ่าตัดแปลงเพศ สรุปแล้วทำได้ 2 วิธี คือ
1. ใช้ผิวหนังตัวเองในการทำทำช่องคลอด
2. การใช้ลำไส้ของตัวเองในการทำช่องคลอด
เป็นอย่างไรก็คือว่า การผ่าตัดแปลงนั้นก็ต้องมีการผ่าตัดแคมทำให้ใกล้เคียงผู้หญิงมากที่สุดก็คือ มีแคมนอก แคมใน คิดทรอลิต มีช่องปัสสาวะที่ใกล้เคียง มีช่องคลอดที่เหมาะสมความลึก ทีนี้ความลึกทุกอย่างต้องประกอบกันหมด การที่จะได้องค์ประกอบทุกอย่างในเวลาเดียวกันนี้ สิ่งที่กำหนดได้ก็คือเนื้อเยื่อของคนไข้เองเท่านั้น ความยาวของอวัยวะเพศเดิม ความยาวของหนังหุ้มปลาย ลักษณะของถุงอัณฑะ ความใหญ่ของถุงอัณฑะ ความหย่อนยาน ความยืดหยุ่นของถุงอัณฑะ ถ้าดึงออกมาแล้วยืดได้แค่ไหน ผิวหนังที่ตึงผิวหนังที่หย่อน สิ่งเหล่านี้จะเป็นองประกอบ การที่เคยขลิบมารึเปล่าก่อนหน้านี้ไหม ก่อนหน้านี้เคยตัดไข่ออกมาก่อนไหม เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะบอกได้ทั้งหมด ว่าอันนี้ควรใช้วิธีใดเพื่อจะให้ทุกอย่างได้เหมาะสม เนื่องจากว่าทุกอย่างควรประกอบไปด้วยกัน เช่น ความอูมของช่องคลอดความลึกที่เหมาะสม มันควรจะไปได้ด้วยกันหมด โดยสรุปแล้วคนซึ่ง ผิวหนังยาว ผิวหนังเยอะสามารถใช้ผิวหนังตัวเองทำได้ ทำช่องคลอดได้ คนที่เนื้อเยอะไม่พอคนที่เหมาะกับการใช้ลำไส้ในการทำช่องคลอดก็คือคนที่เคยคลิปหนังมาก่อน คลิปหนังหุ้มปลายมาก่อนตั้งแต่เด็ก คนที่อวัยวะเพศสั้น คนที่เคยตัดอัณฑะมาแล้ว อวัยวะเพศหดไป อวัยวะเพศทั้งหมดนั้นเล็ก มองแล้วจะไม่เพียงพอต่อการจะทำผ่าตัด ผ่าตัดทำช่องคลอด หรือคนที่ต้องการความลึกมากกว่าธรรมดา ในกรณีซึ่งบางคนจะต้องใช้งานกับอีกกรณีที่ชาวยุโรปซึ่งจะต้องใช้งานกับความลึกที่เกินปกติไป จะเห็นว่าข้อนี้จะมีองประกอบเยอะ มีทั้งข้อดีข้อเสีย ถ้าสมมุติว่าคนที่สามารถทำได้ทั้ง 2 อย่าง
ข้อดีของการใช้ผิวหนัง
ก็คือไม้ต้องทำผ่าตัดบริเวณหน้าท้องให้ เกิดผลข้างเคียงอีกอย่างใช้ผิวหนังตัวเองก็พอ
ข้อเสียของการใช้ผิวหนัง
- ความอูมของอวัยวะเพศก็จะน้อย เพื่อจะเอาผิวหนังไปทำให้ได้มากที่สุด
- ผิวหนังไม่มีความล่อลื่นเป็นผิวหนังธรรมดา
- โอกาสของผิวหนังหดรั้งของช่องคลอดนั้นมีสูงในระยะยาวมากกว่าการใช้ลำไส้
การใช้โมหรือการโมต้องใช้เวลาให้ดีที่สุด - ความยาวของช่องคลอด ขึ้นกับความยาวของอวัยวะ และอัณฑะ และมีโอกาสหดตัวสูงในระยะยาวหลายปี แม้จะขยายอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ไม่สามารถรับประกันความลึกใดใด
ข้อดีการใช้ส่วนของลำไส้
- จะได้ความบึกที่ยาว 6-7 นิ้ว แต่อย่างไรก็ตามขึ้นกับความยาวของลำไส้ ของแต่ละบุคคล ซึ่งมากน้อยไม่เท่ากัน ไม่สามารถรับประกันได้
- ผนังของลำไส้เนื้อเยื่อของผนังจะมีความชุ่มชื่นเยื่อเมือกจะเหมือนช่องคลอด
แยกกันไม่ออกจะมีความชุ่มชื่นเหมือนในปากของเราไม่ต้องใช้สารล่อลื่นใด ๆ
ข้อเสียของการใช้ส่วนของลำไส้
- การผ่าตัดด้วยลำไส้ก็คือ ต้องผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง ซึ่งความชำนาญของแผลผ่าตัดขึ้นอยู่กับความจำใจของศัลยแพทย์โดยตรงที่ทำลำไส้ แต่ถ้าแพทย์ทำลำไส้แผลผ่าตัดที่ลำไส้ได้ดีก็จะได้แผลที่เล็กโอกาสเจ็บปวดเกิดผลข้างเคียงน้อย
- เนื่องจากแผลลำไส้แล้ว นอกจากแผล 1 ผ่าตัดหน้าท้องแล้ว 2 แผลตรงลำไส้ถ้าตัดต่อไม่ดีก็เกิดผลข้างเคียงเกี่ยวกับลำไส้
- ระยะยาวเกิดลำไส้อุดตันจากการเกิดพังผืดซึ่งก็เกิดได้จากทุกๆการผ่าตัดของร่างร่างกายที่ผ่าหน้าท้องไม่ว่าจะผ่าตัดไส้ติ่ง ผ่าตัดถุงน้ำดีทั้งหลายหรือผ่าตัดคลอดเมื่อมีเคยผ่านเข้าไปในบริเวณช่องท้องแล้วโอกาสเกิดพังผืดก็มีทำให้ลำไส้อุดตันก็ได้จริง ๆ ก็น้อยมาก หลัก ๆ แล้วผลที่จะเกิดให้ดีนั้น คือความชำนาญของศัลยแพทย์ต้องเลือกศัลยแพทย์ให้ดีโอกาสช่องคลอดที่จะหดรั้งนั้นน้อยกว่าการใช้ผิวหนังตัวเองเยอะเพราะฉะนั้นความแตกต่างจะอยู่ตรงนี้
ผ่าตัดยกกระชับรูปร่างคืออะไร
การศัลยกรรมยกกระชับรูปร่าง เป็นการปรับเปลี่ยนรูปร่างให้สวยงามได้สัดส่วนเสริมสร้างบุคลิกภาพและเพิ่มความมั่นใจ การศัลยกรรมยกกระชับรูปร่างมีหลายวิธี โดยศัลแพทย์สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขรูปร่างได้เกือบทั้งหมดของร่างกายแม้กระทั้งผิวหนังและไขมันส่วนเกินที่การลดน้ำหนักหรือการออกกำลังกายไม่สามารถช่วยได้แต่การศัลยกรรมรูปร่างสามารถแก้ไขปัญหาส่วนนี้ได้
การยกกระชับลำตัว
การผ่าตัดยกกระชับลำตัวเป็นการผ่าตัดลดขนาดลำตัวให้เล็กลงและกระชับขึ้นผู้ที่มีผิวหนังและไขมันส่วนเกินหย่อนยานมากในช่วงลำตัวอาจจะทำการผ่าตัดยกกระชับทั่วร่างกาย หรืออาจจะแค่บางส่วนเช่น ส่วนบน ส่วนกลางหรือส่วนล่าง การผ่าตัดยกกระชับลำตัวจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังและไขมันส่วนเกินหย่อนยานมากในช่วงลำตัวบนและ ล่าง แม้ว่าการผ่าตัดยกกระชับลำตัวจะเป็นการผ่าตัดที่ที่เอาผิวหนังและไขมันที่หย่อนยานอยู่รอบลำตัวออกโดยเปิดแผลแนวยาวรอบลำตัวตามแนวขอบบิกินี การผ่าตัดยกกระชับลำตัว มีสองแบบ คือแบบย้ายสะดือ และ ไม่ย้ายสะดือ
การเตรียมตัวก่อนการศัลยกรรมยกกระชับรูปร่าง
- ปรึกษาศัลยแพทย์ถึงสิ่งที่คาดหวังและผลการผ่าตัดที่จะเป็นไปได้ แพทย์จะอธิบายขั้นตอน ตำแหน่งของแผล ขนาดรูปทรงอย่างละเอียด
- ทำการตรวจสุขภาพ ตรวจร่างกาย Chest x-ray, ตรวจเลือด ตรวจ EKG, Stress test ถ้าอายุเกิน 40 ปีเพื่อผ่าตัดโดยการวางยาสลบ
- หยุดการสูบบุหรี่ ก่อนและหลังผ่าตัด 2อาทิตย์
- หยุดยา ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดเช่น แอสไพริน หรือวิตามินบางชนิด สมุนไพรก่อนการผ่าตัด 2 อาทิตย์
การดูแลรักษา
การดูแลหลังการศัลยกรรมยกกระชับรูปร่าง
- ใส่ชุดซัพพอร์ตตลอดเวลาทุกวันอย่างน้อย 1 เดือนเพื่อลดอาการบวมช้ำและให้แผลเข้าที่เร็วขึ้น
- อาการบวมช้ำ สามารถเกิดขึ้นได้จะหายไปประมาณ 2-3สัปดาห์หลังการผ่าตัด
- ทำแผลให้สะอาด, ทานยาตามแพทย์สั่ง
- ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดและคอยสังเกตุความผิดปกติ ที่อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนได้
- สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังผ่าตัด 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการยกของหนักหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หากมีการผ่าตัดบริเวณท้องและต้นขานอนยกขาสูง โดยใช้หมอนสองใบซ้อนกัน จะช่วยลดอาการบวมที่ขาได้
- เพื่อลดความเสี่ยงของการอุดตันของลิ่มเลือดต้องมีการเคลื่อนไหวเบาๆ หลังการผ่าตัด 1 วัน
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดช่วยขับของเสียออก
- ตัดไหมวันที่ 7 หลังผ่าตัด
การแก้ไขหน้าอกหย่อนยาน
การเปลี่ยนแปลงรูปทรง ขนาดหรือการหย่อนคล้อยของหน้าอกมีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เนื่องจากความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและผิวหนัง การศัลยกรรมยกกระชับหน้าอกจึงเป็นทางเลือกที่จะใช้แก้ไขปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย/ หย่อนยาน อีกทางหนึ่ง การผ่าตัดยกกระชับหน้าอก คือ ทำให้หน้าอกยกขึ้นอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้วทำให้เนื้อเยื้อ และผิวหนังบริเวณใกล้เคียงกระชับขึ้นให้มีรูปทรงสวยงามเต่งตึงอีกครั้งหนึ่ง
สาเหตุของการเกิดหน้าอกหย่อนยาน มีดังนี้
- การเปลี่ยนแปลงของวัยเมื่อมีอายุที่เพิ่มขึ้น ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและผิวหนังจะลดลง
- ความเสื่อมสภาพของผิวหนังและกล้ามเนื้อ
- ความอ้วนทำให้ขนาดหน้าอกใหญ่ขึ้นเกิดการสะสมของไขมันน้ำหนักของหน้าอกจะมากขึ้นทำให้เกิดการหย่อนคล้อย
- การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วทำให้ปริมาณไขมันในหน้าอกหายไปอย่างรวดเร็ว ผิวหนังจะเหลือเยอะ เนื้อนมจะหย่อนยาน
- ภาวะหลังการเป็นแม่และให้นมบุตรระหว่างการตั้งครรภ์จะมีการสร้างต่อมน้ำนมออกมาปริมาณมากเพื่อผลิตน้ำนมแล้วหลังจากหยุดให้นมบุตรต่อมน้ำนมจะฝ่อลงขนาดหน้าอกจะลดลงทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยได้
- กรรมพันธุ์เนื่องจากมีประวัติทางกรรมพันธุ์หน้าอกใหญ่ ทำให้ หย่อยคล้อยง่าย
- การมีกิจกรรมที่หักโหมและไม่ได้ใช้เสื้อซัพพอตอย่างเพียงพอ
การยกกระชับหน้าอกเพื่อแก้ไขหน้าอกหย่อนยาน
การยกกระชับหน้าอกเพื่อแก้ไขหน้าอกหย่อนยาน
1. การผ่าตัดยกกระชับหน้าอก แผลรูป O-Scar เป็นการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก แผลรอบปานนม หรือ เป็นแผลรูปตัวโอ O-Scar โดยศัลยแพทย์ จะกำหนด ขนาดปานนมที่เหมาะสมก่อน แล้วกำหนดความกว้างของผิวหนังรอบปานนมที่จะต้องตัดออก แล้วดึงผิวหนังและเนื้อเยื่อให้ตึงกระชับแล้วเย็บปิดแผลรอบปานนม
2. การผ่าตัดยกกระชับหน้าอก แผลรูป Keyhole –Scar เป็นการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก แผลรอบปานนม และมีแนวเส้นแผลจากปานนมถึงใต้ราวนม Keyhole โดยศัลยแพทย์พิจารณาแล้วพบว่ามีความหย่อนคล้อยของหน้าอกปานกลาง จึงเลือกใช้วิธีนี้ เพื่อยกกระชับและตัดหนังและเนื้อเยื่อส่วนเกินออก ตามแนวแผลนี้ แล้วเย็บปิดแผลจะได้แนวแผลหลังผ่าตัด
3. การผ่าตัดยกกระชับหน้าอก แผลรูป Inverted T-Scar เป็นการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก แผลรอบปานนม, มีแนวเส้นแผลจากปานนมถึงใต้ราวนม, และมีแผลโค้งที่ใต้ราวนมด้วยเรียกว่าแผล ตัวทีกลับหัว Inversted T- Scar ศัลยแพทย์จะพิจารณาเลือกวิธีนี้ถ้าพบว่าหน้าอกมีการหย่อนคล้อยมาก และต้องลดขนาดหน้าอกด้วยการเก็บผิวหนังและเนื้อเยื้อเป็นบริเวณกว้างจึงจะเก็บได้หมด แผลที่เกิดขึ้นจึงกว้าง และเป็นรูปตัวทีกลับด้าน
เตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
- ปรึกษาศัลยแพทย์ที่จะผ่าตัด พร้อมตรวจร่างกาย Chest x ray, ตรวจเลือด ตรวจ EKG, Stress test ถ้าอายุเกิน40 ปี ปรึกษาแพทย์เลือกขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมของเต้านมเทียม
- หยุดฮอร์โมน 1-2 สัปดาห์
- หยุดยาจำพวกแอสไพริน ยาลดอาการอักเสบ หรือสมุนไพรที่อาจจะทำให้เลือดออกผิดปกติ หยุดยาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือตามแพทย์สั่ง
- หยุดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์เพื่อลดโอกาสเกิดเลือดไปเลี้ยงแผลไม่ดี
- หยุดดื่มสุรา ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด และควรหยุดดื่มสุราหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
การดูแลแผลหลังผ่าตัดยกกระชับหน้าอก
- นอนยกตัวสูงเล็กน้อยเพื่อช่วยลดการบวมซ้ำ
- ควรสวมเสื้อรัดหน้าอกเพื่อให้การไหลเวียนของน้ำเหลืองดีช่วยลดบวม และกระชับรูปทรงเต้านม
- ทำแผลทุกวันจนกว่าจะตัดไหม / ตัดไหมวันที่ 7 หลังผ่าตัด
- รับประทานยาแก้ปวด เพื่อลดอาการปวด
- พบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
- ห้ามยกของหนัก หลังผ่าตัด อย่างน้อย 2สัปดาห์
การลดขนาดหัวนม และปานนม คืออะไร
ขนาดเต้านมจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้หญิงที่อายุค่อนข้างน้อยและกลุ่มที่สองเป็นผู้หญิงที่ผ่านการมีบุตรมาแล้ว กับผู้สูงอายุกลุ่มนี้เนื้อเต้านมจะเหลว เต้านมจะห้อยคล้อยลงมากกว่าปกติสามารถแก้ไขด้วยการผ่าตัดลดขนาดเต้านม พร้อมยกกระชับเต้านม
ขั้นตอนการผ่าตัด
ในวันผ่าตัดให้งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดอย่างน้อย8 ชั่วโมง เนื่องจากต้องดมยาสลบ
ระยะเวลาในการผ่าตัด ลดขนาดเต้านมหรือแก้ไขหน้าอกหย่อนยาน โดยเฉลี่ยประมาณ 3-5 ชั่วโมง
การลดขนาดเต้านมหน้ากระชับเต้านมมี 2 ลักษณะคือ
ลดขนาดหน้าอกหย่อนคล้อยไม่มาก แพทย์จะผ่าตัดเข้าที่ปานนมทำให้มีแผลเย็บเกิดขึ้นรอบปานนมเท่านั้น การผ่าตัดด้วยวิธีนี้แผลจะยุบบวมเร็วฟื้นตัวได้เร็ว
ลดขนาดลดขนาดมากหรือหน้าอกหย่อนคล้อยมาก แพทย์จะตัดเนื้อเต้านมและผิวหนังเต้านมออกมากและต้องมีการจัดวางตำแหน่งของหัวนมและปานนมใหม่ด้วยหลังผ่าตัดจะมีรอยแผลเป็นรูปตัว Tหัวกลับ หรือรูปสมอเรือวิธีนี้การหายของแผลและระยะเวลาในการพักฟื้นจะนานกว่ามาก
การดูแลรักษา
การดูแลหลังผ่าตัดแก้ไขหน้าอกหย่อนยาน
- หลังผ่าตัดต้องนอนพักในรพ. ประมาณ 3-7วัน หลังผ่าตัดประมาณ 1-2 วัน อาจมีท่อระบายเลือดคาอยู่ และอาจมีเลือดซึมที่แผลผ่าตัดได้หลังผ่าตัดไม่ต้องประคบเย็น
- ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำประมาณ 1 สัปดาห์แพทย์จะนัดมาตัดไหมประมาณ 1 สัปดาห์ หลังผ่าตัด
- ควรนอนพักให้มากที่สุดถ้าเดินมากอาจทำให้แผลอักเสบได้ ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- ถ้ากังวลว่าแผลผ่าตัดจะไม่เรียบให้ใช้ซิลิโคนแผ่นปิดแผลได้(หลังจากตัดไหม)
- ควรงดอาหารรสจัด ของหมักดองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงงดสูบบุหรี่ประมาณ 1 เดือน
- ปฏิบัติกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ถ้าต้องทำงานที่ต้องออกแรงหนักควรรอหลังผ่าตัดประมาณ 1เดือน
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น แผลแยกปริแผลอักเสบ บวม แดง มีไข้สูง หน้าอกบวมผิดปกติ ปวดแผลมากมีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมออกจากแผล เป็นต้น ควรพบแพทย์ได้ก่อนวันนัด
- ควรใส่เสื้อชั้นในประคองเต้านมเอาไว้ด้วยมิเช่นนั้นหน้าอกก็จะกลับมาคล้อยยานได้อีกส่วนขนาดของหน้าอกอาจโตขึ้นได้ถ้าน้ำหนักตัวมากขึ้น เนื่องจากมีไขมันเข้าไปสะสม
TAG : Face Feminization Surgery, Facial Feminization Surgery Cost Thailand, Facial Feminization Surgery Thailand, FFS in Thailand, FFS Surgery Cost, FFS Thailand, Forehead Reduction Surgery, Transgender Facial Feminization Surgery, Hairline Lowering Surgery Female, Hairline Lowering Surgery Male, แก้ ปัญหา หน้าผาก กว้าง, ปรับ โครง หน้า, โรง พยาบาล ศัลยกรรม, ลด ขนาด หน้าผาก, ลดโหนกแก้ม
NAVIGATION
CONTACT US
Milada Plastic Surgery Hospital
1 Sathu Pradit 20 Road, Bang Khlo
Subdistrict Bang Kho Laem District,
Bangkok 10120
Copyright © www.miladahospital.com
ติดต่อเราคลิก
