แต่การทำตาที่ต่างกันมาก ๆ ก็คือส่วนใหญ่ไม่ได้เก็บรอยตีนกาข้าง ๆ ทำให้ความหย่อนยังมีอยู่ แต่การเก็บรอยข้างตีนกาข้าง ๆ อายุประมาณ 40-50 ปี ก็จะมีแผลเป็นเล็กน้อย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าดีขึ้น หนังตาหย่อนก็จะดีขึ้นเยอะ ส่วนการเก็บถุงใต้ตาถ้าเราเก็บรอยย่นด้วยก็จะมีแผลออกไปข้าง ๆ นิดหน่อย พอเลยจากนั้น ก็จะเป็นการทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ ก็จะมีวิธีการใช้ผ่าตัดกับไม่ผ่าตัด

การไม่ผ่าตัด

การไม่ผ่าตัด ก็คือการใช้เครื่องมือชนิดต่าง ๆ ที่เป็นความร้อนแล้วแต่ชื่อของวัสดุส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องใช้ความร้อนต่างไม่ว่าจะเป็น พวกเลเซอร์ต่าง ๆ เช่นเทอมาร์ทอุลเทเลอร์ไฮฟูล ทั้งหลายซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะมีการคิดค้นขึ้นมาใหม่ ๆ เพื่อให้รุ่นเก่า ๆ ตกรุ่นไป โอกาสเหล่านี้มีน้อยมากน้อยกว่าที่เราเห็นเพรา เครื่องมือเหล่านี้ราคาแพงบางที หลายล้าน เพราะฉะนั้น จึงมีค่าการบริการค่อนข้างสูง ผลที่ได้คือให้ผิวหนังตึงขึ้น แต่ผลเหล่านี้ไม่ชัดเจน คนที่มีเงินไม่สามารถงบประมาณจำกัด จึงไม่แนะนำวิธีนี้ เพราะอาจได้ผลน้อยกว่าที่คิด วิธีอื่นก็คือ วิธีใช้การร้อยไหมส่วนอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลชัดเจนก็คือ

วิธีการผ่าตัด

การผ่าตัดก็คือการกระชับหนังใบหน้า ให้ตึง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของศัลยแพทย์เป็นสำคัญที่สุด ว่าจะทำได้ตึงแค่ไหน ถ้าหลักที่ถูกต้อง คือต้องลอกผิวหนัง หรือยกผิวหนังขึ้นมาทั้งหมดจากกล้ามเนื้อ ห้ามเลือดให้ดี แล้วก็กระชับกล้ามเนื้อให้หนึ่งชั้นก่อน เป็นการกระชับพังผืดที่หุ้มกล้ามเนื้อเพื่อให้ตึงไม่ใช่แค่ผิวหนัง แล้วก็วิธีกระชับกล้ามเนื้อคอ เพื่อให้กระชับขึ้นถ้าใช้วิธีดึงหน้ากระชับผิวหนังเพียงอย่างเดียวแป๊บเดียวก็หย่อนและก็กลับมารู้สึกเหมือนเดิม วิธีดึงหน้าให้ได้ผลที่สุดเราต้องกระชับกล้ามเนื้อด้านในแล้วแต่เทคนิคต่าง ๆ ของศัลยแพทย์ วิธีและความแตกต่างจะขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์ ทุกคนจะมีเทคนิคของตัวเอง ศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์มาก ๆ ก็ จะทำให้ได้ดี จะกระชับกล้ามเนื้อยังไงให้ตึงได้นานบริเวณส่วนไหนให้ตึงที่สุด ที่สำคัญมากในการดึงยกกระชับกล้ามเนื้อให้ตึงคือบริเวณใต้มุมปากและคอ ถ้าทำได้ไม่เพียงพอแล้ว ไม่นานก็จะหย่อนเหมือนเดิม โดยทั่วไปถ้าทำได้ดี ใบหน้าจะอ่อนเยาว์ 15-20 ปี ได้สบาย ๆ ทีนี้การลงแผล ความแตกต่างของการลงแผล

1. การลงแผลที่ไหน แล้วแต่แพทย์ผู้ผ่าตัด แล้วแต่ศัลยแพทย์ที่ดีก็จะซ่อนแผลให้เนียน อยู่ที่คนไข้กับแพทย์ที่จะตกลงกันว่าจะซ่อนแผลที่ทำได้ง่ายก็คือบริเวณหน้าผากหรือบริเวณไรผมที่มีผลไม่ดี ตรงไหนให้ได้ผลดี ที่ทำได้ง่าย ๆ การดึงหน้าถ้าจะให้ผลชัดเจนต้องเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์เยอะ ๆ ถึงจะได้ผลดี

2. ก่อนการดึงหน้าควรที่จะลดน้ำหนักให้เต็มที่ คนที่ลดน้ำหนักให้เต็มที่ ใบหน้าที่หย่อนจะสามารถดึงได้ดี กว่าคนที่ไม่ได้ลดน้ำหนัก

3. ถ้าดึงหน้าไปแล้วมาลดน้ำหนักที่หลัง ก็จะมีผลเสียคือการทำให้ใบหน้านั้น ที่ดึงไว้ตึงอาจหย่อนลงเล็กน้อย อันนี้เป็นข้อที่พึงระวัง

ส่วนอีกกรณีหนึ่ง คนที่มีใบหน้าค่อนข้างกระดูกใหญ่ คนที่กระดูกโหนกแก้ม กระดูกกรามใหญ่ ถ้าจะให้ผลดี ต้องเหลากระดูกให้เล็กลงก่อน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ได้คิดตรงนี้ แพทย์จะบอกว่า ถ้าต้องเหลากระดูกให้เล็กลง กรามให้เล็กแล้ว ใบหน้าจะอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องดึงหน้า ถ้าดึงด้วยยิ่งผลยิ่งดี เป็นข้อคำนึงนิดนึง